วันพุธที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2558

ต้นแบบจอเงิน Age of Ultron , ผู้กำกับหนังหนังใหม่ SPIDER-MAN

หนัง!!! อัลตรอน บุกเต็มกำลัง ดูตัวอย่างที่ 3 Avengers: Age of Ultron


หนัง


เรื่องราวความเข้มข้น ระทึกได้ใจขึ้นเรื่อยๆ กับตัวอย่างหนังใหม่ของภาพยนตร์แอ็คชั่นฮีโร่ที่ทุกคนรอคอยอย่างเรื่อง Avengers: Age of Ultron ที่ในเวลานี้ได้ทำการ เปลื้องทีเซอร์ตัวอย่างตัวที่ 3 ออกมาแล้ว กับการเตรียมทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ของ อัลตรอน ตัวร้ายเบอร์ล่าสุด ที่เหล่าฮีโร่

  • ไอรอนแมน
  • กัปตันอเมริกา
  • ธอร์
  • ดิ อินเครดิเบิ้ล ฮัลค์
  • แบล็ค วิโดว์
  • ฮอว์คอาย 

นั้นต้องร่วมกันยับยั้งความวินาศนี้ให้ได้




เพราะด้วยโปรแกรมหนังเรื่อง Avengers: Age of Ultron นั้นนำแสดงโดย

  1. โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ รับบทเป็น ไอรอนแมน 
  2. คริส อีแวนส์ รับบทเป็น กัปตันอเมริกา
  3. คริส เฮมสเวิร์ธ รับบทเป็น ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า
  4. มาร์ค รัฟฟาโร่ รับบทเป็น เดอะ ฮัลค์
  5. สกาเล็ตต์ โจแฮนสัน รับบทเป็น แบล็ค วิโดว์
  6. เจเรมี่ เรนเนอร์ รับบทเป็น ฮอว์คอาย
  7. แซมมวล แอล. แจ็คสัน รับบทเป็น นิค ฟิวรี่
  8. โคบี้ สมัลเดอร์ส รับบทเป็น เจ้าหน้าที่ มาเรีย ฮิลล์ 


ซึ่งทุกคนต้องร่วมมือกันกำจัด

  1. เจมส์ สเปเดอร์ รับบทเป็น อัลตรอน





ถ้าอย่างนั้นเราลองไปดูตัวอย่างที่ 3 ของ Avengers: Age of Ultron กัน ก่อนที่จักได้ชมกันแบบเต็มๆ ใน 29 เมษายน 2558 เวลา 1 ทุ่มเป็นต้นไป






ดูตัวอย่างหนังใหม่เรื่อง Age of Ultron




 มาดูผู้กำกับหนัง SPIDER-MAN ฉบับมาร์เวลรีบูต!!




ก็คงจะพูดได้เลยว่าหนังเข้าใหม่เรื่อง สไปเดอร์แมน เป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ถูกรีบูตบ่อยที่สุดด้วยกันถี่ที่สุดตัวหนึ่งของโลกจอเงินเลยก็ว่าได้ เพราะว่าว่าหลังจากที่ทางโซนี่พร้อมทั้งมาร์เวลได้เจรจากันเป็นที่เรียบร้อยลงตัวแล้ว การเอาแฟรนชายส์ไอ้แมงมุมกลับสู่บ้านเกิดของตัวเอง นั่นทำให้สตูดิโอมาร์เวลตกลงที่จักจ้างผู้กำกับหนังฝีมือดีมีสไตล์เก๋แปลกแหวกแนวอย่าง ดรูวส์ กอดดาร์ด จากหนังสยองขวัญหักมุมคนดูจนหน้าหงายอย่างเรื่อง The Cabin in the Woods มารับหน้าที่ทั้งเขียนบทกับกำกับไอ้แมงมุมภาครีบูต

ภายหลังที่ ดรูวส์ กอดดาร์ด ไม่เป็นแค่เหมือนตัวเฟุ้งเฟื่องกชั้นดีของทางสตูดิโออย่างมาร์เวลแล้ว แต่เขาเรียกได้ว่าเขามีสายสัมพันธ์และใกล้ชิดกับจักรวาลมาร์เวล ของซูเปอร์ฮีโร่เป็นอย่างมากเพราะว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทกับจอร์จ วีดอน มือเขียนบทให้กับเช็ครอบหนังรวมเหล่าฮีโร่อย่าง 1.The Avengers, 2.Avengers: Age of Ultron รวมไปถึงซีรีย์มาร์เวลที่สปินออฟออกมาอย่างเรื่อง Agents of S.H.I.E.L.D. อีกด้วย

แต่ว่าอันที่แท้แล้วตัวของ ดรูวส์ กอดดาร์ด นั้นเคยถูกวางตัวจากทางสตูดิโอโซนี่ ให้กำกับหนังสปินออฟจากเรื่อง The Amazing Spider Man 2 ด้วยกันเรื่อง The Sinister Six เป็นหนังรวมบรรดาวายร้ายตัวฉกาจของสไปเดอร์แมน แต่ทั้งนี้เพราะทางโซนี่ได้เซ็นคำสัญญาแชร์คาแรกเตอร์ตัวนี้กับทางมาร์เวลทำให้โครงการสร้างหนังเรื่องนี้ถูกพับเก็บขึ้นชั้นไปก่อน รอเวลาที่เหมาะอีกทีคงจะได้สร้างกัน

พร้อมกับไม่เท่าเท่านั้นตัว กอดดาร์ด เองก็เพิ่งจะมีโอกาสได้เขียนบทให้กับซีรีย์ซูเปอร์ฮีโร่ในค่ายมาร์เวลอย่างเรื่อง Daredevil ในปีที่ทะลุมาด้วยแต่เขาเขียนบทไปได้แค่สองตอน แต่เขาก็ถอนตัวออกมาเพื่อจักดูแลงานสร้างให้กับเรื่อง The Sinister Six แต่ว่าเมื่อโครงการถูกพับไป ซึ่งเขาก็คงหัวเสียอยู่ไม่น้อยที่ต้องทิ้งโปรเจ็คเรื่อง Daredevil มา

แต่แล้วกลายเป็นว่าส้มเลยหล่นใส่ผู้กำกับหนังคนนี้เข้าอย่างจังในการที่ มาร์เวล ได้เเลื่องลือกตัวเขาให้มาดูแล Spider - Man เวอร์ชั่นรีบูตใหม่ครั้งนี้ กับสิ่งที่น่าจับตามองจากนั้นก็คือ ใครล่ะที่จักมาแสดงเป็นซูเปอร์ฮีโร่นัก ยอมใยคนถัดจากนั้น!


ที่มา: http://xn--12cmad7fk7bcnb3gc0fe3una1a6g.blogspot.com/ , http://movienew2014-2015.blogspot.com/


วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558

บทวิจารณ์หนังหลักใหญ่ UNBROKEN

บทวิจารณ์หนังเรื่อง UNBROKEN


class=aligncenter


ถึงแม้ว่าหนังอย่างเรื่อง Unbroken นั้นจักตั้งใจนำเสนอวีรกรรมพร้อมทั้งความอดทนของบุคคลที่มีตัวตนอยู่ครันในประวัติบุคคลศาสตร์อย่าง หลุยส์ แซมเปอร์รินี่ แต่ทว่าจุดขายของโปรแกรมหนังที่แท้แท้จริงคือการเอาชื่อผู้กำกับหนังหญิงอย่าง แองเจลิน่า โจลี่ มาขายเป็นหลัก เสียจนเราอาจจักกล่าวได้ว่า เราแทบจะสนใจในออร่ารัศมีของตัวโจลี่ มากกว่าจะไปโฟกัสตัวหนังเสียอีกด้วยซ้ำไป


ซึ่งแท้จริงๆ แล้วผลงานการกำกับของโจลี่ชิ้นที่ 3 นี้ถือว่าทำออกมาได้สมน้ำสมเนื้อ ก็เพราะว่าตัวหนังมีสเกลของเรื่องที่เรียกได้ว่าใหญ่พอตัว ด้วยเหตุที่ตัวหนังมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องสงคราม ปรากฏกำแพงเครื่องบินรบ รวมไปถึงช่วงเวลาที่ตัวละครของเรื่องต้องไปลอยคออยู่กลางทะเล ก่อนที่จะโดนจับไปอยู่ในค่ายเชลยตอนท้ายเรื่อง ซึ่งแน่นอนว่าการคุมงานสร้างของโจลี่แม้ว่าจักออกมาน่าพอใจ แต่ขณะลองหันกลับมามองในเรื่องตัวบทจอเงินด้วยกันวิธีการเล่าเรื่องของเธอแล้วจักพบว่าตัวหนังเข้าใหม่ค่อนข้างประสบปัญหาพอสมควร


เพราะว่าที่ แจ็ค โอคอนเนล ที่เป็นนักแสดงนำของเรื่องที่รับบทเป็น หลุยส์ แซมเปอร์รินี่ นั้นต้องรับหน้าที่ในการโอบอุ้มเช็ครอบหนังทั้งเรื่องไว้เลยทีเดียว ดังที่มันเล่าช่วงเวลาที่เขาต้องพยายามเอาชนะตัวเองในการวิ่งมาราธอนก่อนจักผันตัวเองไปวิ่งแข่งขันเป็นนักกีฬาในการแข่งขันโอลิมปิกโลก ซึ่งหนังก็เล่าช่วงเวลานี้แบบตัดผ่านๆ ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรมากนัก


แต่ทว่าฝันของหลุยส์ นั้นก็ต้องดับวูบหายไปครั้นเขาต้องเข้าไปร่วมเป็นพลทหารอากาศในกองทัพสหรัฐ ระหว่างที่เขาได้รับภารกิจในการบินไปลาดตระเวนนั้นเองเครื่องของเขาก็ถูกยิงตกลงในมหาสมุทรจนต้องลอยคอยอยู่กลางทะเลเป็นเวลาหลายอาทิตย์ ซึ่งพวกเขาก็ต้องเผชิญสภาพขาดน้ำ ขาดอาหารพร้อมด้วยโดนแสงแดดแผดเผาจนร่างกายไหม้ คล้ายๆ กับชีวิตพายใน Life of Pi แต่ที่ซวยหนักกว่าคือการที่เขาถูกกองทัพญี่ปุ่นพบพร้อมด้วยจับตัวไปเป็นเชลยสงครามในค่ายทหาร


พร้อมกับ ณ ในค่ายทหารนั้นเองหลุยส์ต้องเผชิญหน้า เดอะเบิร์ด 1.มิยาวิ, 2.ทาคามาสะ อิชิฮาระ ที่ใครๆ ก็ขนานนามว่าเขาเป็นจอมโหดแห่งค่ายเชลยสงครามที่มักจะลงมือลงไม้กับนักโทษเป็นประจำ พร้อมทั้งหลุยส์ก็ตกเป็นกระสอบทรายอยู่บ่อยครั้ง


ซึ่งสิ่งที่น่ากังขาก็คือ ความสัมพันธ์แบบทั้งรักทั้งเกลียดของ เดอะเบิร์ด กับ หลุยส์ นั้น เรียกได้ว่าตัวดูหนังนำเสนอมาแล้วส่อกลิ่นโฮโมอิโรติกคลุ้งจอไปหมด ตามที่เคมีของนักแสดงชายทั้งสองคนดันเข้ากันแบบประหลาด ยิ่งแววตาโหยไห้ของฝ่ายญี่ปุ่นนั่นยิ่งสร้างความรู้สึกตะหงิดๆว่านักๆแล้ว เดอะเบิร์ดนั้นแอบชอบในความไม่ยอมจำนนของหลุยส์ หรือไม่ก็คิดเป็นอื่นไกลไปกว่านั้นเราก็ไม่อาจจักรู้ได้เหมือนกัน เท่าแค่รู้สึกได้ว่าฉากนั้นส่งกลิ่นแปลกๆอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว


เพราะถ้ามองในภาพรวมแล้วหนังใหม่อาจจะไม่ได้บันเทิง ไม่ใช่หรือน่าจดจำในทุกภาคส่วน แต่ถือว่าเป็นผลงานที่เรามองเห็นความตั้งใจของ แองเจลิน่า โจลี่ ในการถ่ายทอดเรื่องราวของหลุยส์ แซมเปอรินี่ได้ไม่เลวทีเดียวครับ

ให้ 3 คะแนนจาก 5 คะแนน

@พริตตี้ปลาสลิด

class=

ที่มา: http://movie.sanook.com/48181/

วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ผลตอบแทน Oscars 2015 บำเหน็จนี้ ใครจงได้มา?

รางวัล Oscars 2015 รางวัลนี้ ใครควรได้?




เดินทางเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการประกาศผลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปี 87th Academy Awards หรือไม่ Oscars 2015 รางวัลออสการ์ที่เตรียมมอบให้กับจอเงินคุณภาพที่คู่ควรในสาขาต่างๆ ในคืนวันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ที่จักถึงนี้ ในเช้าวันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ ตามเวลาในประเทศไทย

ขึ้นชื่อว่ารางวัลออสการ์ 2015 นั้นก็ยังคงอัดแน่นด้วยหนังคุณภาพที่ตรงตามเกณฑ์ด้วยกันมาตรฐาน ทั้ง 24 สาขารางวัล เพื่อในปีนี้หนังตลกร้าย รวมดาราชั้นนำ กลายเป็นในความโดดเด่น Birdman กับ The Grand Budapest Hotel เข้าชิงมากที่สุดถึง 9 รางวัล

เพราะภาพยนตร์เนื้อหาเกี่ยวกับสงครามก็มาแรงอย่างเรื่อง The Imitation Game เข้าชิงถึง 8 รางวัล ส่วนจอเงินม้ามืดอย่างเรื่อง American Sniper มีชื่อเข้าเข้าชิงถึง 6 รางวัล  ในขณะที่จอเงินที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการในปีนี้อย่างเรื่อง Boyhood ก็ได้กลายเป็นตัวเต็ง เข้าชิง 6 รางวัลเช่นเดียวกัน

แต่ว่าผู้ชนะในแต่ละสาขามีได้เหมือนแค่หนึ่งเดียว นี่คือ การคาดการณ์ ผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 87 ซึ่งประมวลจากข้อมูลทางสถิติรางวัลด้วยกันรายได้ รวมทั้งคะแนนเสียงจากนักวิจารณ์หนังชั้นนำมาให้ได้ดูกัน




ซึ่งด้วยบรรดารางวัลที่เกี่ยวกับ การแสดง ของออสการ์ปีนี้ เป็นที่น่าเสียดาย เพราะหลายสาขาล้วนแต่มี ตัวเต็ง ใช่ไหม ตัวเด่น ชนิดที่เตรียมตัวนอนมารับตุ๊กตาทอง หากไม่มีอะไรที่พลิกความคาดหมายพร้อมทั้งค้านสายตาคนดูหนังอย่างเราๆ

มาโหมโรงต้นจาก รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ที่คงไม่รับไม่ได้ว่า Julianne Moore มีผลงานการแสดงอันยอดเยี่ยมใน Still Alice กับบทบาทผู้หญิงกลายเป็นโรคอัลไซเมอร์ ได้รับเสียงชื่นชมอย่างเป็นเอกฉันท์จากเทศกาลหนังต่างๆ และนี่อาจจักสิ้นสุดการรอคอยเกือบ 20 ปี ภายหลังที่เธอเคยเข้าชิงออสการ์มาถึง 4 ครั้ง แต่ยังไม่เคยคว้าได้เลยสักตัวเลย

ในส่วนสาวคนอื่นๆ ที่ร่วมเข้าชิงในรางวัลนักแสดงนำหญิงนี้ แม้จะทำผลงานเข้าตากรรมการ แต่ก็ยังไม่มีใครโดดเด่นได้เท่ากับตัวเต็ง บทบาทของ Felicity Jones ในเรื่อง The Theory of Everything นั้นน่าประทับใจ และ ไม่ควรมองข้าม

ส่วน Reese Witherspoon ในเรื่อง Wild ยังคงสร้างงานแสดงดีๆ ได้สมกับมาตรฐานของ Marion Cotillard จากเรื่อง Two Days, One Night ติดโผเข้ามาอย่างเซอร์ไพรส์ พร้อมด้วยก็ไม่น่าแปลกใจที่เธอขึ้นแท่นเป็นขวัญใจกรรมการ ส่วน Rosamund Pike จากเรื่อง Gone Girl เธอคนนี้ก็ต้องจับตามอง

ผู้ชนะที่คาดว่าจะได้รางวัล: Julianne Moore | ส่วนตัวแปร: Felicity Jones | ส่วนม้ามืด: Reese Witherspoon




และมาดู รางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม กันบ้าง สาขานี้ก็แทบจะไม่ต้องลุ้น เจ้าแม่ดาราทีวี Patricia Arquette น่าจะมาคว้ารางวัลออสการ์จากการเข้าชิงครั้งแรกไปได้อย่างสบาย จากการแสดงที่โดดเด่นในเรื่อง Boyhood

พร้อมทั้งคู่แข่งคนอื่นๆ ในสาขานี้แทบจะไม่น่ากลัวอย่าง Emma Stone จากเรื่อง Birdman กับ Keira Knightley จากหนังเข้าใหม่เรื่อง The Imitation Game ที่ได้รับเสียงชมจากนักวิจารณ์ Laura Dern จากเรื่อง Wild ก็ติดโผเข้ามาแบบงงๆ ส่วน Meryl Streep จากเรื่อง Into the Woods รายนี้เป็นขาประจำ เข้าชิงออสการ์แบบปีเว้นปี


ผู้ชนะที่คาดว่าจักได้รางวัล: Patricia Arquette | ส่วนตัวแปร: Keira Knightley | ส่วนม้ามืด: Laura Dern




และมาดูรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ก็เป็นอีกหนึ่งสาขาที่มี ตัวเต็ง ลอยเด่นมาแต่ไกลอย่าง JK Simmons ที่โชว์ฝีมือการแสดงเข้าขั้นเทพในเรื่อง Whiplash ที่เดินสายกวาดรางวัลมาแทบจักทุกเวที พร้อมกับนี่คงเป็นการคว้าตุ๊กตาทองตัวแรกในชีวิตการแสดงของเขา ที่น่าจักครอบครองมาได้เพราะว่าไร้ข้อกังขา

ในขณะที่ผู้เข้าชิงอีก 4 คน ก็ไม่น่าหวั่นเกรงสักเท่าไหร่อย่าง Edward Norton จากเรื่อง Birdman กับ Ethan Hawke จากเรื่อง Boyhood โดยที่ 2 คนนี้บรรดานักวิจารณ์หนังคอยส่งเสียงสนับสนุนอยู่ไม่น้อย ส่วน Mark Ruffalo จากหนังเรื่อง Foxcatcher พร้อมด้วย Robert Duvall จากเรื่อง The Judge กับน่าเสียดายที่พวกเขาแทบจักถูกลืม

ผู้ชนะที่คาดว่าจักได้รางวัล: J.K. Simmons | ส่วนตัวแปร: Edward Norton | ส่วนม้ามืด: Ethan Hawke



มาเพิ่มระดับความน่าตื่นเต้นกันน่อย เนื่องด้วยรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประจำปีนี้คงเป็นสาขาการแสดงที่ได้ลุ้นกัน การชิงดีชิงเด่นระหว่าง หนุ่มดาวรุ่ง กับ ดารารุ่นใหญ่อย่าง Michael Keaton ที่โชว์ เปลื้องของโดนใจนักวิจารณ์ทั้งประเทศจากการแสดงใน Birdman ส่วน Eddie Redmayne จากเรื่อง The Theory of Everything ที่รับบทอัจฉริยะโลกจารึกอย่าง Stephen Hawking แบบตามสูตรออสการ์เป๊ะ แม้ว่าคะแนนของทั้งคู่จะสูสีกัน แต่ผู้ชนะมีแค่แค่หนึ่งเดียว

และผู้เข้าชิงรางวัลนำชายคนอื่นๆ ก็น่าประทับใจ อย่าง Steve Carell ที่พลิกบทบาทแปลงโฉมโชว์ฝีมืออย่างเข้มข้นในเรื่อง Foxcatcher ก็ไม่ควรมองข้าม เช่นเดียวกับ Benedict Cumberbatch จากเรื่อง The Imitation Game ก็พอที่จะมีลุ้น ส่วนขวัญใจอเมริกาอย่าง Bradley Cooper จากหนังฮิตเรื่อง American Sniper ก็น่าจะกลายเป็นม้ามืดอยู่ในสาขารางวัลนี้

ผู้ชนะที่คาดว่าจักได้รางวัล: Eddie Redmayne | ส่วนตัวแปร: Michael Keaton | ส่วนม้ามืด: Bradley Cooper

พร้อมทั้งตามมาด้วยรางวัลเกี่ยวกับ บทภาพยนตร์ ปีนี้พบว่ามีการแข่งขันค่อนข้างสูสีในสาขารางวัลนี้ อีกทั้งยังมีบทหนังหลายเรื่องที่คาดว่าจักติดโผเข้าชิง แต่กลับไม่มีชื่ออย่างน่าประหลาดใจ เช่น เรื่อง  Gone Girl, เรื่อง Wild ใช่ไหม เรื่อง Still Alice เป็นต้น




เหตุด้วยรางวัลบทหนังดัดแปลงยอดเยี่ยม แม้จะมีชื่อหนังหลายๆ หลุดโผไป แสดงให้เห็นว่าสาขารางวัลนี้ค่อนข้าง สายแข็ง เพราะว่าเฉพาะงานดัดแปลงจากหนังสืออัตชีวประวัติบุคคลกลางสมรภูมิรบอย่างเรื่อง American Sniper ได้ภาษีดีขึ้นมาทันที ที่กลายเป็นได้รับความนิยมถล่มทลายตั้งแต่ปีใหม่ ส่วนหนังอินดี้อย่างเรื่อง Wishlash ดัดแปลงมาจากหนังสั้นชื่อเดียวกัน ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเต็งที่สร้างสรรค์ได้อย่างมีชั้นเชิง

ในส่วนผู้เข้าชิงเรื่องอื่นๆ งานดัดแปลงจากหนังสือของเรื่อง The Imitation Game ก็ไม่ควรมองข้าง เช่นเดียวกับเรื่อง The Theory of Everything พระราชประวัติของอัจฉริยะเรื่อง Stephen Hawking  ที่ตีความออกมาได้อย่างประทับใจ ขณะที่เรื่อง Inherent Vice กลายเป็นตัวเระบือกที่ติดโผเข้ามาแบบเซอร์ไพร์ส

เพื่อผู้ชนะที่คาดว่าจะได้รางวัล: Wishlash เพราะว่า Damien Chazelle | ส่วนตัวแปร: The Imitation Game เพราะว่า Graham Moore | ส่วนม้ามืด: American Sniper เพราะว่า Jason Hall


รางวัลยังไม่หมดแค่นี้นะ เดี๋ยวมาต่อกันพรุ่งนี้นะครับ เหรอใครที่ขี้เกียจรอ เข้าไปอ่านได้เลยครับที่นี่ http://movie.sanook.com/47649/

วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

บทวิจารณ์หนังเนื้อความ The Imitation Game,Fifty Shades of Grey

บทวิจารณ์หนังเรื่อง The Imitation Game




ซึ่งในตัวหนังพร้อมทั้งชีวิตแท้ของ อลัน ทัวริ่ง เขาอาจจักต้องคอยปกปิดความเป็น เกย์ ของตัวเองเอาไว้จวบจนวันตายของเขา มิหนำซ้ำในช่วงเวลาดังกล่าวแล้วการเป็นบุคคลที่รักในเพศเดียวกันนั้นยังจัดเป็นเรื่องผิดกฎหมายพร้อมด้วยมีบทลงโทษของการเป็นเช่นนั้นอีกต่างสมมุติ

เพราะว่าที่ อลัน ทัวริ่ง นั้นอาจจะเป็นแค่นักคณิตศาสตร์คนหนึ่ง แต่ตราบใดเขาฉายแววครั้นเขาได้เข้าร่วมกับคณะถอดรหัสลับอีนิกม่าอันเป็นรหัสที่เยอรมันใช้ส่งข่าวสารเรื่องการเคลื่อนทัพในช่วงเวลาสงครามโลกครั้งที่ 2 รหัสลับที่ว่ากันว่าถอดยากจนแทบไม่มีโอกาสจะถอดได้ แต่ว่าท้ายที่สุด อลัน ทัวริ่ง พร้อมด้วยคณะของเขาก็เก่งช่วยเหละบือกองทัพของเหล่าสัมพันธมิตรให้กุมชัยชนะในสงครามพร้อมทั้งย่นระยะเวลาจุดสิ้นสุดของสงครามให้จบลงไวกว่าเดิมร่วม 2 ปี

กับการที่ได้สวมบทเป็นอลัน ทัวริ่งของเบเนดิกซ์ คัมเบอร์แบชนั้นเรียกได้ว่าเขาทำเป็นทำให้ตัวละครที่เขาสวมบทบาทเต็มไปด้วยมิติมากมายไม่ว่าจักเป็นในฐานะของอัจฉริยะที่มีปัญหาเรื่องการเข้ากับผู้คนด้วยกันการที่ เกย์หนุ่มที่ต้องแอบซ่อนความรู้สึกของตัวเอง รวมไปถึงปมในจิตใจยามเด็กพร้อมกับการเลือกจักแต่งงานบังหน้าเพื่อดึง โจน คลาร์ค หรือไม่ก็ เคียร่า ไนท์ลีย์ เอาไว้ในคณะถอดรหัสไว้ให้ได้นานที่สุด

สำหรับความน่าสนใจของตัวละครของ โจน คลาร์ค ก็เรียกได้ว่าโดดเด่นไม่พ่ายกับบทของอลัน ดังที่ตัวละครนี้เป็นเพศหญิงแค่ปางคนเดียวเท่านั้น มิหนำซ้ำในยุคสมัยดังกล่าวผู้หญิงถูกจัดเป็นช้างเท้าหลังที่มีหน้าที่อยู่ในหมวดนักทะเบียนเลขานุการหรือไม่ก็ไม่ก็ในฐานะแม่บ้านแม่เรือน แต่ในฐานะของนักคิดนั้น โอกาสความเป็นได้ต่ำเตี้ยพอๆกับบุคคลรักร่วมเพศ แถมหน้าที่ที่เธอโดนตราหน้าก็มีแค่พางการแต่งงานเป็นภรรยาของชายอื่นเช่นเดียวกับผู้หญิงทั่วไปในสังคม

เพราะว่าความสำเร็จของ อลัน ทัวริ่ง นั้น ในช่วงเวลาดังกล่าวแทบจักไม่มีใครล่วงรู้เลย เนื่องจากมันเป็นปฏิบัติการลับทางทหาร กับเวลาเปลี่ยนไปกว่า 60 ปีจนถึงทุกวันนี้สาเหตุการจากไปของอลัน ทัวริ่งก็ยังคงเป็นปริศนาที่ยังไม่ได้รับคำตอบอันแน่ชัด แนวคิดแรกก็คือเขาอาจจะฆ่าตัวตายจากการสูดสารไซยาไนด์เข้าไปเนื่องมาจากหดหู่กับการต้องรักษาอาการรักร่วมเพศด้วยการฉีดฮอร์โมนเอสโตรเจนเข้าร่างกาย แทนการจองจำในคุก แต่ในอีกแนวคิดหนึ่งคือเขาเสียชีวิตเพราะว่าการสูดดมไซยาไนด์เข้าไปโดยบังเอิญมากกว่า

แต่ว่าเรื่องที่น่าเศร้าที่ในช่วงเวลาดังกล่าวความสำเร็จที่อลัน ทำได้ช่วยเหเอิกเกริกเหล่าทหารนับหมื่นนับแสนนายให้รอดพ้นจากความโหดร้ายของสงคราม แต่มีเหมือนไม่กี่คนที่ได้รับรู้ถึงสิ่งที่เขาได้ทำลงไป ความสำเร็จนั้นไม่ได้รับการป่าวประกาศใช่ไหมยกย่อง ซ้ำร้ายสิ่งที่เขาเป็นตามธรรมชาติของเขายังถูกสังคมมองว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายจนมันย้อนกลับมาแว้งกัดชีวิตของเขาอีก

และอย่างไรก็ตามวันนี้ก็มีคนรู้จักเกย์หนุ่มที่เป็นคนไขรหัสอีนิกมานามว่า อลัน ทัวริ่ง แล้ว

ให้ 4.5 คะแนนจาก 5 คะแนน

@พริตตี้ปลาสลิด

อ่าน 4 เรื่องสุดสยิวของเรื่อง Fifty Shades of Grey





เรื่องที่ 1.นั้นมาจากหนังสือเบสท์เซลล์เลอร์สู่ภาพบนจอเงิน

เพราะเรื่อง Fifty Shades of Grey นั้นเป็นผลงานวรรณกรรมของ อี แอล เจมส์ หนังสือไตรภาคที่มียอดขายถล่มทลายกว่า 100 ล้านเล่มใน 52 ภาษาทั่วโลก ที่สำคัญมันทำให้บรรดานักอ่านล้วนสนใจว่านิยายเล่มนี้มีความพิเศษตรงไหนพร้อมด้วยอะไรคือจุดขายของมัน พร้อมด้วยแน่นอนที่มันฉาวขนาดนี้เพราะมันเป็นนิยายที่พูดถึงเรื่องเซ็กส์แบบเจ็บๆ

เรื่องที่ 2.ความใคร่ได้รู้ต้องประสงค์เห็น

ในหนังที่สร้างจากนิยายเรื่องนี้ ที่ตกเป็นประเด็นการคาดเดาในวงกว้างด้วยกันความสงสัยใคร่รู้ไร้ขอบเขต โดยที่เทรลเลอร์ของหนังเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่มีผู้คลิ๊กชมมากที่สุดทาง YouTube ครั้งปีที่แล้ว ยิ่งไปกว่านี้ในประเทศไทยได้ข้อสรุปออกมาแล้วว่าตัวหนังจักเข้าฉายแบบเต็มๆไม่มีการตัดทอนใดๆออกแลกกับเรตที่ได้รับคือ ฉ 20+ นั่นคือต้องมีการตรวจบัตรประชาชนก่อนเข้าโรงหนัง

เรื่องที่ 3.ตัวของคริสเตียน เกรย์ หนุ่มนักธุรกิจรสนิยมเฉพาะทาง

ทางด้านของ เจมี ดอร์แนน ได้เสนอตัวรับบท คริสเตียน เกรย์ ที่เป็นนักแสดงชาวไอริช ผู้เป็นที่รู้จักจากการแสดงที่ได้รับรางวัลบาฟตา อวอร์ดของเขาในซีรีส์เรื่อง The Fall พร้อมทั้งซีรีส์ Once Upon a Time ได้ออดิชั่นบทบาทที่ใกล้เคียง

กับเนื่องจากว่าบทโปรแกรมหนังจอเงินนักๆนั้นถูกเก็บไว้เป็นความลับจนกระทั่งเหเอิกเกริกผู้ออดิชั่นน้อยลง เขาจึงได้ทดลองเล่นเป็นคริสเตียนแน่ๆๆ ภายหลัง

เพราะว่าหลังจากการที่ได้บันทึกภาพที่มีแววแล้ว นักแสดงหนุ่มก็ได้คุยทางสไคป์กับเทย์เลอร์-จอห์นสัน ผู้กำกับการแสดงภาพยนตร์พร้อมกับพวกผู้อำนวยการสร้างได้นั่งคุยกับดอร์แนนเป็นเวลานานตามคำขอของเขา เราคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่ใครก็ตามที่จักรับบทนี้จะต้องทุ่มเทตัวเองแบบสุดๆ เป็นแน่แท้ๆ บรูเน็ตติกล่าว ด้วยกันถ้าจักมีความไม่มั่นใจ เกิดขึ้น มันก็จักกลายเป็นปัญหาใหญ่ในการถ่ายทำ พร้อมด้วยก็อาจจะเป็นปัญหาในหนังใหม่เรื่องอื่นๆ ด้วย

เรื่องที่ 4.เรื่องของ อนาสตาเซีย สตีล ทาสรักสาว

ด้วยว่าผู้มารับบทบาทนี้ก็คือ ดาโกต้า จอห์นสัน เธอสนใจบทอนาสตาเซียก่อนโปรเจ็คนี้จะเป็นรูปเป็นร่างด้วยซ้ำไป เธอแสดงความคิดภายหลังการอ่านนิยายว่า ฉันรู้สึกว่าโลกเราเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก กับหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นภายในระยะเวลาสั้นๆ จนเซ็กส์ในหนังเข้าใหม่สือเรื่องนี้ ที่ถูกอธิบายอย่างโจ่งแจ้งพร้อมกับชัดเจน เป็นอะไรที่อิสระเสรีเกี่ยวกับคนทั่วไปค่ะ

พร้อมด้วยผู้กำกับการแสดงภาพยนตร์ของจอห์นสัน ได้อธิบายถึงเหตุผลที่นางเอกของเธอเหมาะกับบทนี้ว่า ฉันรู้ตั้งแต่แรกที่เราได้พบดาโกต้าแล้วว่าเราพบแอนัสเตเซียของเราแล้ว เธอแสดงถึงสมดุลที่เพอร์เฟ็กต์ระหว่างความเปราะบาง ความแสบซ่า ความงดงามด้วยกันความกล้าหาญ ดาโกต้าเข้ามาลองเชิงบทตั้งแต่ตอนแรกๆ มันเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ฉันรู้ว่าบทนี้เป็นของเธอ ดาโกต้า เธอมีไหวพริบ เสน่ห์พร้อมทั้งความเฉลียฉลาดของแอนาพร้อมทั้งเธอก็เนรมิตชีวิตให้บทนี้ได้อย่างที่ฉันจินตนาการไม่ออกเลยว่าจะมีใครทำได้อีก





วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Marvel ตระเตรียมชักเย่อ spierman มาถึงร่วมมือและ Avengers,HUNGER PART 2

ล่าสุด!! สาวกสไปเดอร์แมน เตรียมเฮ! 

หลังมาร์เวล ได้สิทธิ์ดึงตัวละครกลับมาแจมในสงครามจักรวาล




ก็อาจจักเรียกได้ว่าเป็นข่าวที่ดีที่สุดในรอบหลายๆปีกันเลยก็ว่าได้ ก็เพราะว่าคราวนี้ทางสตูดิโอมาร์เวลและโซนี่ พิกเจอร์ส นั้นอาจหาข้อตกลงร่วมกัน รวมไปถึงส่วนแบ่งเรื่องเงินเป็นที่ลงตัว แล้วว่าปัจจุบันนี้ฮีโร่อย่างสไปเดอร์แมนนั้นจะได้เข้ามาร่วมกลุ่มกับ The Avengers ได้อย่างแน่นอน พร้อมกับที่สำคัญคือการได้ร่วมแจมกับกลุ่ม อเวนเจอร์ นี้จักมีการเฟ้นหาไอ้แมงมุมตัวใหม่ด้วย




เพราะที่ทาง แอนดรูวส์ การ์ฟิลด์ ไอ้แมงมุมจากเรื่อง The Amazing Spiderman ก็ได้ออกมาตอบเช่นกันว่าเขาจักไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหนังในการรวมพวก The Avengers แต่ว่าที่แน่ๆคือ ทางมาร์เวลเองก็มีแผนการที่จักให้ไอ้แมงมุมได้ไปปรากฏตัวอยู่ใน Captain America: Civil War แบบพอหอมปากหอมคอด้วยเช่นกัน




พางแต่ว่าการประกาศข่าวที่น่ายินดีนี้ก็มีข่าวร้ายเช่นกัน ตราบโปรเจ็คหนังที่รวมดาวร้ายของตัวละครคู่อริของสไปเดอร์แมนอย่าง Sinister Six ที่มีกำหนดการเข้าฉายในปี 2016 ก็ถูกพับเก็บเข้ากรุไปพร้อมกับมีทีท่าว่าอาจจักไม่ได้สร้างในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน

พร้อมด้วยอย่างไรก็ตามข้อตกลงใหม่ที่เกิดขึ้นระหว่าง เควิน ไฟกี ของมาร์เวล สตูดิโอ กับ เอมี พาสคาล ซึ่งลาออกจากตำแหน่งประธานร่วมของโซนี พิกเจอร์สนั้น ที่ทั้งสองสตูดิโอจักร่วมมือกันสร้างสรรค์เรื่องราวใหม่ให้กับซูเปอร์ฮีโร่อย่างสไปเดอร์แมน

ซึ่งความพิเศษ ที่มียิ่งกว่านั้นก็คือ การที่อาจจะหาโอกาสพิเศษให้ตัวละครจากจักรวาลมาร์เวลได้มีโอกาสมาโผล่อยู่ในเรื่องราวของหนังเรื่องสไปเดอร์แมนด้วย




ด้วยกันที่แน่นอนว่าโปรแกรมหนังในเรื่อง The Avengers Age of Ultron นั้นคงจักยังไม่มีสไปเดอร์แมนโผล่หน้ามา ก็เพราะว่าว่าได้ปิดกล้องไปแล้วแถมหนังก็จ่อคิวเข้าฉายแล้วเรียบร้อย แต่ว่าในตอน Avengers: Infinity War – Part 1 เขานั้นก็น่าจักได้ออกมาร่วมฝ่ายกับบรรดาฮีโร่คนอื่นๆอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นการได้ร่วมกลุ่มของฮีโร่นักไต่เข้ากับจักรวาลมาร์เวลครั้งนี้ทำให้สตูดิโอต้องเลื่อนวันฉายของซูเปอร์ฮีโร่คนอื่นๆ ตามไปด้วยดังถัดจากนี้


  1. เรื่อง Thor: Ragnarok นั้นเลื่อนวันฉายใหม่ไปเป็น 3 พฤศจิกายน 2017
  2. เรื่อง Black Panther นั้นเลื่อนวันฉายไปเป็น 6 กรกฎาคม 2018
  3. เรื่อง Captain Marvel นั้นเลื่อนตามไปเป็น 2 พฤศจิกายน 2018
  4. เรื่อง Inhumans นั้นเลื่อนวันฉายไปเป็น 12 กรกฎาคม 2019



ภาคปิดกำแพง HUNGER PART 2 อย่างยิ่งใหญ่

บนจอ IMAX พร้อมทั้งหนังภาคแยก




ซึ่งหลังจากที่โดนแฟนหนังทั่วโลกโอดโอยว่าทำไมหนังภาคแรกของ The Hunger Games: Mockingjay PART 1 ถึงแม้ว่าไม่ได้เข้าฉายบนจอ IMAX แต่เพื่อภาคที่สองที่มีคิวเข้าฉายในช่วงกลางปีนี้ได้ข้อสรุปจากสตูดิโออย่างไลออนเกสต์แล้ว่าในภาคนี้จะได้ฉายบนจอใหญ่ยักษ์อย่างแน่นอน

แถมด้วยตัวผู้กำกับการแสดงภาพยนตร์อย่าง ฟรานซิส ลอวร์เรนซ์ได้คอนเฟิร์มแล้วเวยว่าหนังภาคนี้จักกลายเป็นแบบ IMAX 3D ด้วย ซึ่งเรียกได้ว่าจักเป็นการปิดผนังสงครามแห่งพาเน็มอย่างยิ่งใหญ่กันเลยทีเดียว

ซึ่งถึงแม้ว่าตอนหนัง PART1 จะไม่ได้ดูเป็นเวอร์ชั่น 3D แต่เพราะประเทศจีนกลับได้สิทธิพิเศษได้ดูเป็นเวอร์ชั่นสามมิติ ซึ่งตัวผู้กำกับหนังฟรานซิส ลอว์เรนซ์พอใจกับงานภาพที่ถูกดัดแปลงเป็นสามมิติด้วย

แต่ว่าอย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าหนังภาคที่กำลังจักเข้าฉายนี้อาจจักไม่ใช่ภาคสุดท้ายของแฟรนชายส์นี้จนกระทั่งโจน เฟลเทเมอร์ ที่เป็นซีอีโอของ ค่ายไลออนเกสต์ ได้เปิดแสดงตนว่า ในอนาคตอาจจักมีการคลอดโปรเจ็คหนังภาคแยกออกมาอีก ซึ่งเดี๋ยวนี้เรากำลังพัฒนาพร้อมทั้งคิดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของภาคก่อนหน้าใช่ไหมภาคต่อภายหลังหนัง Mockingjay PART 2 จบลง โจน เฟลเทเมอร์กล่าวไว่

พร้อมทั้งจากสถานการณ์ พร้อมกับ โอกาสที่มีความเป็นไปได้มากกว่าคือการพัฒนาหนังภาคพรีเควนซ์หรือภาคก่อนหน้าออกมา ซึ่งแน่นอนว่าตัวหนังอาจจักมีการพูดถึง เกมล่าชีวิต ในครั้งก่อนหน้าหนังภาคแรกซึ่งอาจจักมีความเป็นไปได้ที่ว่าหนังอาจจักโฟกัสไปที่ตัวละครฟินิค(แซม คาฟลิน) เคยเป็นผู้ชนะในเกมครั้งก่อนหน้า

ซึ่งโอกาสที่จักพัฒนาหนังภาคต่อออกมานั้นก็น่ากังขาอยู่ว่าเรื่องราวในพาเน็มนั้นจะมีอะไรให้พูดถึงอีกทั้งนี้เพราะเรื่องการปฏิวัติของพาเน็มมันจบลงอย่างสมบูรณ์แน่นอนแล้วในภาคที่ 3 นี้ เนื่องแต่แฟรนชายส์ Hunger Games นั้นแตกต่างจากแฟรนชายส์อย่าง Harry Potter ยังพาผู้ชมไปเปิดโลกเวทมนตร์ในมิติต่างๆได้อีกมากหลายแยะมากมาย

เอาน่ะ!! อย่างไรก็ตามเหตุผลของความพยายามจักพัฒนาภาคอื่นๆของเรื่อง Hunger Games ออกมาอีกก็เพราะว่าหนังเรื่องนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของสตูดิโอไลออนเกสต์ซึ่งทำกำไรให้อย่างมหาศาล และถึงแม้ว่า แฟรนชายส์ของ Divergent จักทำกำไรให้สตูดิโอเช่นกันแต่มันก็ยังห่างไกลคำว่ามหาศาลแบบ Hunger Games





วันศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

มาหาดูไดโนเสาตัวเอี่ยมแห่งหนังใหม่ใจความสำคัญ JURASSIC WORLD

ลงมาดูไดโนเสาร์ตัวใหม่ใน JURASSIC WORLD





ซึ่งหนังเรื่อง JURASSIC WORLD นั้นน่าจักเก่งจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในหนังที่คนทั่วโลกรอคอย เพราะตั้งแต่หนังภาคที่สามออกฉายไปเมื่อ 14 ปีก่อนพร้อมกับคำวิจารณ์หนังที่สับตัวหนังเสียเละเทะแถมตัวหนังก็ได้เข้าชิงรางวัลราซซี่เน่าประจำปี 2012 ในสาขาแต่งหน้ายอดแย่อีกต่างต่างว่า

แต่ว่าอย่าไปพูดถึงหนังภาคที่ไม่น่าจดจำเลย เพราะถ้าย้อนกลับไปในปี 1993 JURASSIC PARK คือปรากฏการณ์บนจอหนังที่ทำให้คนทั้งโลกตื่นตาตื่นใจไปกับไดโนเสาร์ที่สมแท้จริงสมจังอันเป็นอีกผลงานมาสเตอร์พีสของผู้กำกับการแสดงหนังสตีเวน สปีลเบิร์ก พ่อมดแห่งฮอลลีวูด

เพราะภายหลังที่ค่อยๆ เปลื้องภาพพร้อมกับตัวอย่างของหนังใหม่เรื่อง JURASSIC WORLD ออกมาทีละเล็กทีละน้อย คราวนี้สตูดิโออย่างยูนิเวอร์แซลก็เร่ำลือกจักแย้มไดโนเสาร์ตัวร้ายที่คาดว่าน่าจะเป็นตัวสร้างความวุ่นวายพร้อมกับความระทึกขวัญให้กับหนังภาคนี้ก็คือไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่ที่ชื่อ อินโดไมนัส เร็กซ์




เพราะด้วยเหตุการณ์ในหนังส่วนนี้เกิดขึ้นจากความหมายรู้หมายเห็นของนักวิทยาศาสตร์ที่จัดการนำสายพันธุ์ของไดโนเสาร์เอามาผสมข้ามสายพันธุ์จนกลายเป็นไดโนเสาร์ที่ฉลาด ดุร้าย ด้วยกันว่องไว ซึ่งเป็นที่มาของชื่ออินโดไมนัส เร็กซ์ ไม่ใช่หรือแปลได้ว่า ราชาผู้ดุร้าย นั่นเอง

ซึ่งทางพวกงานของผู้สร้างหนังภาคนี้เเลื่องลือกจักเปิดเปิดปากรายละเอียดว่าพวกเขาตั้งใจจักให้เจ้าไดโนเสาร์ตัวนี้กลายเป็นตัวที่ดุร้ายที่สุดในแฟรนชายส์หนังชุดนี้เลยทีเดียว เพราะว่าแล็บที่ได้ให้กำเนิดเจ้าไดโนเสาร์พันธุ์นี้ก็คือแฮมมอนด์ ครีเอชั่น แล็บ

กับสมมติว่ามองประการใดผิวเผินแล้วเจ้าไดโนเสาร์ตัวนี้ดูเหมือนกับว่าส่วนหัวของมันมีความคล้ายคลึงกับไดโนเสาร์พันธุ์ทีเรกซ์แต่มันมีองค์ประกอบบนส่วนหัวที่แตกต่างกัน แถมมันมีผิวหนังแข็งเป็นเกล็ดคล้ายกับกระดูกที่แข็งเป็นพิเศษซึ่งมาจากเธอโรพอดชื่อ เอบิไลโอซอร์ มันพ้นการคลุกเคล้าเทียมโดยพันธุวิศวพันธุกรรมจากได้โนเสาร์สายพันธุ์

  1. คาร์โนทอรัส
  2. มาจันกาซอรัส
  3. รูกอพ 
  4. จิกแกนโนโตซอรัส


ด้วยว่าอานุภาพเสียงคำรามของอินโดไมนัสดังกังวาลราว 140 - 160 เดซิเบล เท่ากับเสียงบินขึ้นพร้อมด้วยลงจอดของเครื่องบินโบอิ้ง 747 พร้อมกับอาจวิ่งได้ด้วยอันตราเร็ว 30 ไมล์ต่อชั่วโมงเลยทีเดียว


ตัวอย่างหนังใหม่เรื่อง JURASSIC WORLD




วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ดู 4 คำอธิบายน่ารู้ก่อนดูพลแม่นปืนหนังใหม่ส่วน American Sniper

อ่าน 4 เรื่องน่ารู้ก่อนดูพลแม่นปืนหนังใหม่เรื่อง American Sniper






ข้อที่ 1. หนังเรื่องนี้ได้เข้าชิง 6 รางวัลออสการ์ ในปี 2015

ด้วยรอบหนังเรื่องนี้ ได้เข้าชิงถึง 6 สาขาด้วยกันบนเวทีออสการ์ประกอบไปด้วย

  1. สาขาจอเงินยอดเยี่ยม
  2. นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม แบรดลีย์ คูเปอร์
  3. บทหนังดัดแปลงยอดเยี่ยม
  4. ตัดต่อยอดยี่ยม
  5. ผสมเสียงยอดเยี่ยม
  6. สาขาตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม 


เพราะว่าการเข้าชิงรางวัลถึง 6 สาขาบนเวทีออสการ์ปีนี้ ทำให้หนังเรื่อง American Sniper เปรียบเสมือนเป็นจอเงินตัวแทนมหาชนในการเข้าชิงรางวัล เนื่องด้วยหนังขวัญใจมหาชนอย่าง Gone Girl ด้วยกัน Interstellar หลุดโผไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว





ข้อที่ 2.หนังเรื่องนี้สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงๆ

เรื่องนี้เกิดขึ้นครั้นเมื่อ คริส ไคล์ ที่เป็นพลแม่นปืนสไนเปอร์ผู้มีตัวตนอยู่ครันตามความเป็นมาศาสตร์ เขาเป็นผู้ปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตายหลายครั้งตลอดช่วงเวลาที่เขารับราชการทหารอยู่ในสงครามอิรักจนกลายเป็นตำนานที่ต้องถูกได้รับการพูดถึงของหน่วยซีลเลยทีเดียว ซึ่งเขาได้รับเกียรติพร้อมทั้งการสดุดีมากมายกับเขาได้รับการยอมรับว่าเป็นสไนเปอร์มือฉกาจที่สุดจากสถิติการสังหารถึง 160 คน ด้วยกัน ตัวเลขที่อาจจะเป็นไปได้คือจำนวน 255 คนด้วยซ้ำไป



ข้อที่ 3.หนังเรื่องนี้ เป็นผลงานการกำกับของ คลินท์ อีสต์วู้ด

เขาเป็นผู้กำกับหนังกับนักแสดงมือฉกาจในวัย 85 ปีที่ผ่านประสบการณ์การทำงานมาแล้วอย่างโชกโชน เขาทำหนังมาแล้วถึง 37 เรื่อง ในฐานะผู้กำกับหนัง รวมไปถึงยังได้คว้ารางวัลออสการ์สาขาผู้กำกับหนังด้วยกันจอเงินยอดเยี่ยมมาจากโปรแกรมหนังขึ้นหิ้งอย่าง Unforgiven ปี 1992 รวมไปถึง Million Dollar Baby

ถึงแม้ว่าตัวอีสต์วูดเองจะกล่าวว่าเขาไม่ได้ทำหนังเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อชิงรางวัลก็ตามแต่การถูกเมินในสาขาผู้กำกับจากบนเวทีลูกโลกทองคำ และ ออสการ์ ปีล่าสุดในฐานะผู้กำกับหนัง กลับไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆ กับทัศนคติในการทำงานของเขาแต่อย่างใด


ข้อที่ 4.หนังเรื่องนี้ได้ถ่ายทอด เรื่องราวของพลแม่นปืน

เกี่ยวกับหนังมาใหม่เรื่องนี้ ได้เล่าเรื่องราวของมือปืนแห่งหน่วยซีลของกองทัพสหรัฐฯ อย่าง คริส ไคล์ ที่ได้ถูกส่งตัวไปที่ ประเทศอิรักพร้อมกับภารกิจปกป้องเหล่าพี่น้องทหาร ความแม่นยำของเขาได้ช่วยชีวิตในสมรภูมิรบมาแล้วอย่างนับไม่ถ้วน

และคราวเรื่องราวความกล้าหาญของเขาได้แพร่สะพัดออกไป เขานั้นก็ได้รับการยกย่องให้เป็น ตำนาน แต่ทว่าชื่อเสียงของเขาก็เป็นที่กล่าวขานกันในหมู่ศัตรูเช่นกัน

นั่นทำให้เขามีค่าหัวและกลายเป็นเป้าหมายหลักสำคัญของพวกกบฏพร้อมด้วยเขายังต้องเผชิญหน้ากับการต่อสู้ในอีกรูปแบบหนึ่ง คือการทำหน้าสามีพร้อมทั้งคุณพ่อที่ดีจากทั่วทุกมุมโลกอีกด้วย


ต้องขอขอบคุณภาพหนังจากทาง วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์สไทยแลนด์






ตัวอย่างหนังใหม่เรื่อง American Sniper




วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2558

Dreamworks กองพลเลว! คนชมแอนิเมชั่นน้อย ทิ้งโปรเจคเกิน 2 คำอธิบายต่อปี

ค่าย Dreamworks กำลังแย่! คนดูแอนิเมชั่นน้อย โล๊ะโปรเจคเหละบือ 2 เรื่องต่อปี




ซึ่งถึงแม้ว่าจักได้ ชื่อว่าเป็นสตูดิโอผลิตหนังhttp://woodykeeka.wordpress.com/การ์ตูนแอนิเมชั่นชื่อดังของโลก แถมปีที่ลอดมาก็ทำรายได้จากภาพยนตร์เรื่อง How to Train Your Dragon 2 ไปได้ไม่น้อย

แต่ว่าทาง Dreamworks ก็กำลังดิ้นรนเอาตัวรอดจากสถานการณ์ ทางการเงินของบริษัทอยู่เหมือนกัน ทั้งนี้เพราะในช่วง 2 - 3 ปีที่ทะลุมานี้รายได้จากภาพยนตร์แอนิเมชั่นของ Dreamworks นั้นทำยอดได้ลดลงเรื่อยๆ

ด้วยกันอันเนื่องมาจากผู้ชมภาพยนตร์การ์ตูนแอนเมชั่นลดน้อยลง อีกทั้งยังเจอจอเงินแอนิเมชั่นของคู่แข่งอย่าง Frozen ของดิสนี่ย์แย่งซีนไปด้วย




และเพื่อความอยู่รอดของบริษัท ทาง Dreamworks จึงตกลงใจลดขนาดของบริษัทลง ด้วยการเลิกจ้างพนักงานกว่า 500 ตำแหน่ง และลดจำนวนโปรเจคภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ทำฉายในแต่ละปี

จากแต่ก่อนหนังเข้าใหม่ปีละ 3 เรื่อง เหเล่าลือเช่นปีละ 2 เรื่องเท่านั้น เพราะว่าหนังแอนิเมชั่นแต่ละเรื่องนั้น ทาง Dreamworks ใช้เงินลงทุนสร้างค่อนข้างมาก

แต่ว่ายอดรายได้จาก Box Office น่าผิดหวัง เพราะเฉพาะเรื่อง Shrek กับ Madagascar ที่ทำยอดได้น้อยลง มีปาง How to Train Your Dragon 2 เท่านั้นที่พอทำกำไรให้บริษัทได้

และในช่วงที่ทาง Dreamworks กำลังประสบปัญสมมติว่าารเงินนี้ ก็มีบริษัทอื่นยื่นข้อเสนอขอซื้อกิจการหนังใหม่ อย่างเช่น SoftBank หรือไม่ Hasbro เป็นเงิน 3,4 พันล้าน US Dollars




กับสิ่งที่ Jeffrey Katzenberg ซึ่งเป็น CEO ของบริษัท DreamWorks Animation เปิดเผยว่าการลดจำนวนหนังที่จักทำออกมานั้นเป็นหนทางหนึ่ง ที่จะช่วยแก้ปัญสมมตารเงินของบริษัทได้ โดยการทำจอเงินออกมาแค่ 2 เรื่องต่อปีก็พอ

แต่ว่า 2 เรื่องนั้นต้องเป็นจอเงินคุณภาพ ที่ทำรายได้สูงในรอบหนังของ Box Office คือทำออกมาน้อยลง แต่เน้นคุณภาพเพื่อให้ทำรายได้ที่ดีกว่า เพื่อความอยู่รอด


พร้อมด้วยทั้งนี้ตัวอย่างหนังใหม่ ครั้งตอนปี 2012 ทาง DreamWorks ก็เคยประกาศเลิกจ้างพนักงานกว่า 350 คนไปแล้ว แต่ตอนนั้นผังงานของทาง DreamWorks ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง คือจักทำภาพยนตร์แอนิมเชั่นภาคต่อออกมาปีละ 2 เรื่อง

พร้อมกับได้ทำเรื่องใหม่ออกมาปีละเรื่อง รวมเป็น 3 เรื่องต่อปี ซึ่งทำให้บริษัทขาดทุนไปไม่น้อย พอมาคราวนี้ปลดไปอีก 500 คน พร้อมทั้งลดโปรเจคเหลือเลื่องแค่ 2 เรื่องต่อปีแล้ว จะช่วยให้ทาง DreamWorks อยู่รอดได้สุทธิไม่ใช่หรือไม่




แต่ว่าทุกวันนี้โปรแกรมหนังจอเงินแอนิเมชั่นจาก DreamWorks ที่กำลังสร้างยังมีอยู่แยะ คือ

  1. โทร์ล
  2. สำนักงานปฏิบัติการโลกหน้า
  3. ละครเพลงที่มุมไบ
  4. กังฟูแพนด้า 3 
  5. How to Train Your Dragon 3 


แต่ว่าภายหลังนี้จะตั้งต้นมีงานสร้างน้อยลงแล้ว

ที่มา: http://movie.sanook.com/46709/

วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558

หนัง: นี่ถือเอาว่า 5 หนังฟอร์มยักษ์ พล็อตสด ที่น่าเหมาะตาแห่งหนศก 2015

นี่คือ 5 หนังฟอร์มยักษ์ พล็อตใหม่ ที่น่าจับตาแห่งปี 2015




เรื่องแรก Chappie





นับว่าเป็นผลงานตัวอย่างหนังใหม่เรื่องล่าสุดของผู้กำกับการแสดงจอเงิน นีลล์ บล็อมแคมป์ ที่ได้สร้างผลงานหนังสัตว์ประหลาดเรื่องเยี่ยมอย่าง District 9 และหนหนังเรียกร้องมนุษยธรรมอย่าง Elysium มาแล้ว

แต่ทว่า Chappie จะกราบทูลเล่าเรื่องราวของแชปปี้หุ่นยนต์ที่เกิดมามีความคิดอ่านไม่ต่างจากเด็กน้อยคนหนึ่ง ทว่าโชคเล่นตลกทำให้มันโดนอาชญากรจับตัวไปและกลายเป็นสมาชิกที่ไม่สมประกอบ แต่ยิ่งเติบโตขึ้นแชปปี้กลับฉายแววบางอย่างออกมา



เรื่องที่สอง Tomorrowland




นี่เป็นหนังมาใหม่ผลงานการกำกับของ แบรด เบิร์ด ซึ่งได้สร้างผ่านหนังบล็อกบัสเตอร์มาจาก Mission Impossible 4 ที่จะชี้เล่าเรื่องราวของ เด็กสาวฮิวจ์ ลอว์รี่ เด็กหญิงที่บังเอิญได้พบกับเข็มกลัดวิเศษเพราะว่าบังเอิญทำให้เธอเดินทางไปยังแดนมหัศจรรย์อย่างทูมอโรว์แลนด์ได้

เพราะว่าที่เธอไม่รู้เลยว่าในโลกที่สวยงามนั้นมีอันตรายพร้อมกับความลับอีกมากมายซ่อนอยู่ หนังได้นางเอกบริทท์ โรเบิร์ทสัน แสดงร่วมกับจอร์จ คลูนีย์



เรื่องที่สาม Inside Out




โปรแกรมหนังซึ่งการได้กลับมาของพิกซาร์ซึ่งครั้งนี้จักกลับมาดังเปรี้ยงอีกครั้งไม่ใช่หรือไม่หลังจากช่วงหลังๆ หนังของค่ายนี้กลับซบเซาในเรื่องของเสียงวิจารณ์พอสมควร

ตัวหนังเล่าเรื่องของ ไรลีย์ ที่เป็นเด็กหญิงขึ้นมาจากชีวิตแบบตะวันตกตอนกลาง ตราบพ่อของเธอต้องบุกเบิกงานใหม่ในซาน ฟรานซิสโก เช่นเดียวกับเราทุกคน ไรลีย์ถูกชักนำด้วยอารมณ์ต่างๆ ของเธอ

  1. ความสุข หรือว่า เอมี่ โพเลอร์
  2. ความกลัว หรือไม่ก็ บิล เฮเดอร์
  3. ความโกรธ หรือไม่ ลิววิส แบล็ค
  4. ความน่ารังเกียจ เหรอ มินดี้ คาร์ลลิ่ง 
  5. ความเศร้า ไม่ก็ฟิลลิส สมิธ

ซึ่งอารมณ์ทั้งหมดจึงต้องช่วยให้เธอตัดผ่านชีวิตในแต่ละวันไปได้ นี่เป็นผลงานของพีท ด็อกเตอร์เจ้าของแอนิเมชั่นสุดประทับใจอย่าง


เรื่องที่สี่ Crimson Peak




สำหรับหนังสยองขวัญแฟนตาซี ที่เล่าเรื่องราวของ อีดิธ ครัชชิง เธอเป็นนักเขียนสาว ที่ต้องพบกับความน่ากลัวที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวสามี กับเบื้องหลังตัวตนสุดลี้ลับ ที่เธอเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนตัวหนังจักเน้นความน่ากลัวในคฤหาสน์เก่าๆ

อีกทั้งยังได้ดารามากฝีมืออาทิ
เจสสิกา แชสเทน
ทอม ฮิดเดิลสตัน
จิม เบรเวอร์
มีอา วาซิโควสกา
ชาลี ฮันแนม

พร้อมด้วยนี่เป็นผลงานการกำกับของ กิลเลอร์โม เดล โตโรจากเรื่อง Pacific Rim



ด้วยกันเรื่องสุดท้าย Midnight Special




นี่เป็นรอบหนังแนวไซไฟ - ดราม่า ที่หมายเล่าการเดินทางของคู่พ่อลูกที่ต้องหลบหนีการตามล่า ทันทีที่พ่อพบว่าในอดีตเมื่อเขายังเด็กนั้นตนมีพลังพิเศษและมันยังหลับใหลอยู่ในตัว เป็นผลงานการกำกับของเจฟฟ์ นิโคลที่ทำหนังดาร์คๆ เกี่ยวกับอารมณ์มนุษย์อย่าง Mud กับ Take Shelter ตัวหนังจะได้นักแสดงอย่าง

  1. โจเอล เอ็กเกอร์ตัน
  2. แซม เชฟเพิร์ด
  3. คริสเทน ดัสน์


มาร่วมแสดงด้วย

วันพุธที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2558

ชมตัวอย่างหนังใหม่: อัพเดทความขับเคลื่อนไหวสรรพสิ่งภาพยนตร์ AVENGERS: AGE OF ULTRON

มาดูอัพเดทความเคลื่อนไหวของหนัง AVENGERS: AGE OF ULTRON




ก็เรียกได้ว่าทางค่ายหนังมาร์เวลเอง นั้นได้ ให้เสรีภาพข่าวสารรวมไปถึงภาพถ่าย คอนเซปอาร์ทพร้อมกับภาพจากตัวหนังออกมาอย่างไม่ขาดสาย เรียกได้ว่าเป็นการปลุกกระแสไปในตัว ภาพล่าสุดที่ ปลงออกมานั้นเป็นภาพที่เดอะฮัลค์กำลังประจันหน้ากับไอรอนแมน นอกเหนือไปจากนี้ยังเป็นภาพของบรรดาคาแรกเตอร์ในหนังกำลังออกท่าทางต่างๆ มากมาย

ซึ่งอย่างไรก็ตามตัวอย่างหนังใหม่สิ่งที่น่าสนใจไม่จำนนกันก็คือบทบาทของวายร้ายในหนังภาคใหม่ซึ่งตัวละครอัลตรอนที่รับบทบาทนี้เพราะ เจมส์ สเปนเดอร์ นั้น มีความเป็นมาคือมันเป็นจักรกลที่มาจากการทดลองของโทนี่ สตาร์ค แต่จากความผิดพลาดทำให้มันมีความคิดอ่าน และ มองว่าเหล่ามนุษย์เป็นศัตรู กับความพยายามในการอัพเกรดตัวเองนั้นเพื่อให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น ไม่ปางเท่านี้อัลตรอนยังพยายามรวบรวมกองทัพหุ่นยนต์โดรนในการจัดการกับระบบคอมพิวเตอร์, เครือข่ายเนตเวิร์ค พร้อมด้วยแผนของมันจักลุล่วงก็ต่อพอมนุษยชาติสูญสิ้นเผ่าพันธุ์

ในส่วนฮีโร่อีกคนที่มี ความสำคัญในหนังภาคนี้ก็คือ วิชั่น ซึ่งรับบทเพราะว่า พอล เบตตานี่ ปูมหลังคร่าว ๆ ของตัวละครนี้ในเวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูนนั้นมันเกิดจากการสร้างของอัลตรอน ทว่าในเวอร์ชั่นหนังนั้นมีการดัดแปลงให้ตัวละครนี้ได้รับการโปรแกรมใหม่จาก โทนี่ สตาร์ค พร้อมกับ บรูซ แบนเนอร์ ด้วยกันเพิ่มความทำได้ในการบินได้ เป็นได้ ยอมลำแสงพิเศษ รวมถึงเปลี่ยนรูปร่างได้ด้วย วิชั่นพยายามจักพิสูจน์ตัวเองว่าเขาอาจเป็นฮีโร่ได้เพราะการร่วมคณะอเวนเจอร์เพื่อต่อกรกับวายร้ายอย่างอัลตรอนด้วย

ซึ่งไม่เหมือนเท่านี้รูปภาพหนังเข้าใหม่ล่าสุดก็คือบทบาทของตัวละคร ดร โช ซึ่งรับบทบาทนี้เพราะว่าคลาวเดีย คิม

สำหรับพล็อตเรื่อง ของหนังภาคใหม่คือ โทนี่ สตาร์ค ต้องการที่จักปัดฝุ่นโครงการเพื่อสันติสุขของชาวโลกขึ้นมาอีกครั้ง

แต่ว่ามันไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดไว้ กับเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ผู้ทรงพลังอย่าง

  1. ไอรอนแมน
  2. กัปตันอเมริกา
  3. ธอร์
  4. ดิ อินเครดิเบิ้ล ฮัลค์
  5. แบล็ค วิโดว์ 
  6. ฮอว์คอาย 


นั้นต้องเผชิญกับบททดสอบอันยิ่งใหญ่โดยมีชะตากรรมของโลกแขวนอยู่บนเส้นด้าย เท่าที่ อัลตรอน สุดยอดวายร้ายได้ถือกำเนิด มีเช่นเหล่าอเวนเจอร์สเท่านั้นที่จักอาจหยุดยั้งเขากับแผนการอันชั่วร้ายของเขาได้ ความวิตกกังวลของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ยอดนักสู้และการกระทำที่ไม่คาดคิดได้นำไปสู่มถ้าาพย์การผจญภัยระดับโลกที่ไม่มีใครเหมือนเช็ครอบหนังเพิ่มเติมได้ที่นี่ http://xn--12cmad7fk7bcnb3gc0fe3una1a6g.blogspot.com/



วันพุธที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2558

บทวิจารณ์หนัง รักหมดแก้ว Love on The Rock ชีวิตินทรีย์มันแสนสั้น

บทวิจารณ์หนัง รักหมดแก้ว Love on The Rock ชีวิตมันแสนสั้น






เช็ครอบหนัง: เพราะด้วยบางคนอาจจะตั้งคำถามว่าถ้าสมมติว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนกินเหล้าเหรออยู่ในกลุ่มเพื่อนที่ชอบออกไปสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนในยามวิกาลแล้วจักยัง มีอารมณ์ร่วม ไปกับหนังเรื่องนี้หรือไม่ก็เปล่า อันที่แน่ๆตัวหนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีความเฉพาะกลุ่มขนาดนั้น จริงๆอยู่ที่เหตุการณ์หลักๆของมันจะเกิดขึ้นกับสังคมในวงสุรา แต่ในขณะเดียวกันตัวหนังก็ยังพูดถึงเรื่องราวความรักของ
หนุ่มสาว - มิตรภาพระหว่างกลุ่มเพื่อน - การเรียนรู้ชีวิตผ่านชีวิตพร้อมทั้งคำพูดเล่าของคนอื่น

รวมไปถึงการเก็บเกี่ยวประสบการณ์อันมีค่าของแต่ละคนด้วย

เหตุด้วยตัวหนังอื้นเล่าเรื่องราวของ ไฟเลี้ยว หรือว่า พิไลพร สุปินชมภู หญิงสาวรักอิสระพร้อมกับไม่ต้องการจะถูกผูกมัดใดๆ เธอคิดว่าความรักที่ดีสำหรับตัวเองนั้นคือการที่ต่างฝ่ายต่างจะต้องเว้นช่องว่างระหว่างกันไว้จนไม่น่าอึดอัดเหรอห่างเหินกันมากจนเกินไป

ถึงแม้ว่าตลอดชีวิตเธอจักผิดหวังมาเพราะตลอดจนกระทั่งเธอได้เจอกับ บั๊กโจ้ หรือ ณปรัชญ์ รัตนนิตย์ หนุ่มตี๋หน้างงโลก เจ้าของร้านเหล้าที่ขอเงินพ่อตัวเองมาเปิด เหมือนเป็นสถานที่เอาไว้สังสรรค์กับเพื่อนฝูง เขาดูไม่คิดจักนักจังอะไรกับชีวิตเพราะว่าคิดว่าอนาคตยังอีกยาวไกลกับเวลาก็เหมือนเป็นสิ่งที่ไม่มีวันหมด

ด้วยว่าประเด็นเรื่องการคบกันแบบหลวมๆ จึงถูกพัฒนาพร้อมทั้งชี้ให้เห็นว่าอันที่แน่ๆแล้ว ความรักแบบมีช่องว่าง ก็มีปัญหากับความขัดแย้งในตัวเองอยู่ เท่าที่อันที่จริงๆแล้วการที่คนสองคนอยู่ใกล้ชิดกัน ซึ่งในเรื่องเปรยให้เห็นว่าทั้งไฟเลี้ยวกับบั๊กโจ้อาศัยอยู่ด้วยกัน ในช่วงเวลาที่แต่ละคนอยู่คนเดียวก็ยังมีการแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของกันและกันอยู่ดี ทั้งความผูกพันของคนสองคนย่อมเกิดขึ้นมาอยู่แล้วอย่างไม่อาจจะหลีกเลี่ยง ทำให้การ คบซ้อน ของทั้งสองฝ่ายทำให้ต่างฝ่ายต่างเปรียบเทียบ คนใหม่ ของกันกับกันอยู่ในที

ซึ่งในขณะที่ฝ่ายหญิงกลายเป็นตัวละครที่พยายามจักสะท้อนสภาวะความไม่แน่นอนของการใช้ชีวิตคู่เธอเลยไม่ตะโกรงจักกระโจนลงไปในสิ่งที่เธอหวาดกลัวว่า ถ้าถ้าเธอเองตบปากและรักใครสักคนอย่างหมดหัวใจแล้ว เธอจักไม่ผิดหวัง ไฟเลี้ยวจึงเละบือกจะเพลย์เซฟตัวเองด้วยการทำให้เจ็บปวดน้อยที่สุด ซึ่งหารู้ไม่ว่าสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่นั้นก็สร้างความเจ็บปวดให้กับตัวเองไม่แพ้กัน

พร้อมด้วยถึงแม้ว่าความรักระหว่างคู่ พระ - นาง นั้นจักว้าวุ่นแค่ไหน แต่สิ่งที่น่าสนใจไม่ปราชัยกันในตัวอย่างหนังใหม่เรื่องนี้ก็คือบรรดาสังคมในวงเหล้าซึ่งประกอบไปด้วย

  1. พี่อุ๊ ไม่ใช่หรือ มาช่า วัฒนพานิช ที่เป็นเจ๊ใหญ่ในวงเหล้า เต็มที่ในทุกวันกับชีวิต
  2. พี่แมน หรือ ปองศักดิ์ รัตนพงษ์ ที่เป็นเกย์แมนพูดจาตรงไปตรงมีมีความคิดสวนทางกับพี่อุ๊เสมอ
  3. พี่โบ้ รหือ ปองกูล สืบซึ้ง เขาเป็นรุ่นพี่ร่างใหญ่ที่เป็นเหมือนศาลพระภูมิในวงเหล้า
  4. พี่นุ เหรอ เอ็ม บุดดาเบลส ทายาทลูกเศรษฐีที่ชอบแต่งตัวเป็นฮิปสเตอร์
  5. เจ๊ด หรือว่า สงกรานต์ The Voice เขาเป็นหนุ่มเซอร์สุดเสี่ยว ที่เคยจีบไฟเลี้ยวแต่ไม่ติด
  6. ญาญ่า เหรอ แอน โพลิติก เพื่อนสนิทแสนสุภาพของไฟเลี้ยว


ซึ่งความโดดเด่นอย่างหนึ่งของหนังเรื่อง รักหมดแก้ว นั้นก็คือช่วงเวลาที่หนังให้เราได้เห็นการอยู่รวมกันของคณะสุราที่กลุ่มเพื่อนจักพูดคุยกันอย่างสนุกสนานจนเราเกือบลืมไปเลยว่าบุคคลิกลุ่มนี้กำลังแสดงหนังเข้าใหม่ในเราดูอยู่

กับความเป็นกันเอง ของตัวละครจึงทำให้ผู้ชมเปรียบเสมือนเป็นเพื่อนอีกคนที่ได้เฝ้ามองพวกเขาเล่าชีวิตอันน่าตื่นเต้น ฝาดโผนด้วยกันน่าผิดหวังไปพร้อมๆ กัน

ดังนั้นเรื่องย่อละครจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เมื่อมีเพื่อนสักคนในกลุ่มเกิดจักเจ็บไข้ได้ป่วยหรือไม่ไม่สบายกะทันหันจนท้ายที่สุดแล้วเพื่อนคนดังกล่าวจักจากเราไปอย่างไม่มีวันกลับ ด้วยกันถึงแม้ว่าเพื่อนคนอื่นๆ จะเศร้าแค่ไหน จุดหักเหของชีวิตใครสักคนย่อมทำให้อีกหลายคน คิด ถัดจากนั้นอีกว่าชีวิตของเราล่ะจักเดินหน้าไปอย่างไรกันต่อดีก็เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วคนเราก็ต้อง เเอิกเกริกก ในสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตตัวเอง พร้อมทั้งสุดท้ายเราก็จักได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวเองเพราะที่ไม่มีใครมาสอนเราได้ด้วยเช่นกัน

@พริตตี้ปลาสลิด

3.5 คะแนนจาก 5 คะแนน

วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2558

ประกาศโปรแกรมหนัง 007 Spectre โดนมือดีแฮ็ค และ หนังเข้าใหม่Stand by Me: Doraemon

ครั้นบท 007 Spectre โดนแฮ็ค นั่นทำให้ทีมงานต้องรีบแก้ไขเพราะด่วน




เพราะว่าหลังจาก พอวันที่ 4 ธันวาคม 2557 ที่ทะลุมา ทางผู้อำนวยการสร้างหนังภาพยนตร์ 007 เจมส์ บอนด์ ไมเคิล จี วิลสัน กับ บาบาร่า บร็อคเคอรี่ นั้นได้ประกาศชื่อตอนของจอเงิน 007 เจมส์ บอนด์ อย่างเป็นทางการ กับภาคใหม่ล่าสุดที่มีชื่อว่า SPECTRE โดยที่มีผู้กำกับหนังจากภาคก่อน แซม แมนเดสมากุมบังเหียนอีกครั้ง และ แดเนียล เคร็ก ก็ยังคงกลับมารับบทบอนด์เป็นครั้งที่ 4 อีกตามเคย

ซึ่งทางกองถ่ายจะเริ่มต้นต้นขึ้นตั้งแต่วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม 2557 พร้อมด้วยจักมีกำหนดเข้าฉาย วันที่ 6 พฤศจิกายน 2558 เพราะที่โปรแกรมหนังเหล่าดารานำที่จักตบเท้าเข้าร่วมแสดงก็ได้แก่

  1. คริสตอฟ วอลท์
  2. ลีอา เวย์ดูซ์
  3. เดฟ บัลทิสต้า
  4. โมนิก้า เบลลุคซิ
  5. แอนดรูวส์ สก็อตต์


พ่างแต่ ว่าปางไม่กี่วันที่พ้นมาทางโซนี่ก็ต้องกุมขมับครั้งใหญ่ ครั้นเมื่อบทภาพยนตร์ของหนังภาคล่าสุดนั้นเกิดรั่วไหลเพราะว่าโดนแฮ็คเกอร์นำมาปูดแพร่ต่อ ซึ่งในบทภาพยนตร์นั้นมีการกล่าวถึงจุดสำคัญของเรื่องไม่ว่าจะเป็นที่บังตาหลัง – พร้อมด้วยชื่อตัวละคร นั้นลามไปถึงจุดหักมุมของเรื่องที่สำคัญมาก ซึ่ง 100 หน้าของบทที่รั่วออกมานั้นเต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่นกับพล็อตตัวละครที่เรียกได้ว่าทั้งตัวละครเลือดเก่าพร้อมด้วยใหม่คละเคล้ากันไป

ซึ่งถ้าใครยังไม่ต้องประสงค์รู้จุดรั่วไหลของหนังภาคล่าสุดขอแนะนำว่าให้เลิกอ่านจากจุดนี้ไปครับ

เพราะว่าที่ในภาคนี้บอนด์จะขึ้นต้นตั้งคำถามถึงอนาคตของตัวเองภายหลังการจากไปของ M เหรอ จูดี้ เดนท์ ในภาคก่อน ส่วน ลีอา เวย์ดูซ์ นั้นจะมารับบทเป็นลูกสาวของ M คนก่อน ด้าน แอนดรูวส์ สก็อตต์ จักมารับบทศัตรูของ คนใหม่ ราฟท์ ไฟนน์ ส่วนโมนิก้า เบนลุคซิ น่าจะกลายเป็นสาวบอนด์ฝั่งตัวร้ายที่มีเอี่ยวกับฝ่ายก่อการร้าย

พร้อมทั้งในตัวบทหนังใหม่นั้นเขียนโดย 1.จอห์น โลแกน , 2.นีล เพอร์วิส พร้อมกับ 3.โรเบิร์ต เวด

พ่างแต่ว่าหลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นทางสตูดิโอ MGM จึงต้องหาทางแก้ไขเป็นการด่วนด้วยกันอาจจักมีการปรับแก้บางส่วนของหนังใหม่เลยทีเดียว






การ์ตูนเรื่อง Stand by Me: Doraemon จากวันที่เรารู้จักกันจนวันลาจาก




เพราะหลังจากที่ตัวอย่างหนังใหม่ Stand by Me ได้หยิบช่วงเวลาของโดราเอมอน ในโมเมนต์สำคัญเพราะจักเล่าเรื่องราวตั้งแต่ช่วงเวลาที่โดราเอมอนได้เดินทางมายังช่วงเวลาของโนบิตะเพื่อช่วยเหลือในการเปลี่ยนแปลงอนาคตข้างหน้า

ซึ่งโนบิตะ นั้นจักได้รู้จักกับของวิเศษต่างๆ นา ไปจนถึงโนบิตะจักต้องเดินทางไปยังโลกอนาคตเพื่อช่วยเหละบือโนบิตะในตอนโตพร้อมกับช่วยเหเล่าลือ ชิซูกะ ระหว่างตอนี่เธอกำลังลำบาก ด้วยกันช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดคือตอนนี่โนบิตะจะต้องลาจากจากโดราเอมอนเพื่อกลับโลกอนาคต

พร้อมกับตัวหนังเรื่อง Stand by Me : Doraemon ซึ่งได้ผู้กำกับการแสดงภาพยนตร์ชาวญี่ปุ่นชื่อดังอย่าง ยามาซากิ ทาคาชิ ที่มีความโดดเด่นในการเล่าเรื่องราวสุดกินใจใน Always: Sunset on the Third Street ทั้งสามภาค ซึ่งตัวเขาเองก็เป็นแฟนหนังสือการ์ตูนโดราเอมอนมาอย่างยาวนานจนเขาต้องเอ่ยปากยอมรับว่ายิ่งๆ แล้วผลงานงานหลายๆเรื่องของเขานั้นได้รับอิทธิพลอย่างมากจากผลงานของ ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ อาทิเช่นหนังเรื่อง Juvenile

เพื่อความแตกต่างระหว่างโดราเอมอนในเรื่อง Stand by Me : Doraemon กับโดราเอมอนในตอนยาวๆ แบบอื่นๆ ที่มักจะออกฉายเป็นประจำทุกๆ ปีนั้นอยู่ตรงที่ครั้งนี้งานด้านภาพจักถูกออกแบบมาเป็น 3D พร้อมทั้งมีการเขียนพล็อตเรื่องขึ้นมาใหม่

เพราะที่ทางทีมงานหนังออนไลน์โปรดิวเซอร์นั้นก็ต้องเจรจากับทางฟูจิโกะโปร ผู้ถือลิขสิทธิ์โดราเอมอน ทำให้กรุ๊ปงานต้องส่งพล็อตเรื่องไปให้พิจารณา แต่ท้ายที่สุดแล้วกรุ๊ปงานก็ได้รับไฟเขียวให้กลายเป็นหนังขนาดยาวได้ทันที

เหตุด้วยตัวหนังแล้วจะถูกดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนทั้งสิ้น 7 เล่มประกอบไปด้วย

  1. ผู้มาจากโลกอนาคต
  2. ชิซูกะจังในไข่
  3. ชิซูกะจังลาก่อน
  4. ความโรแมนติกบนภูเขาหิมะ
  5. คืนก่อนงานแต่งงานของโนบิตะ
  6. ลาก่อนโดราเอมอน
  7. โดราเอมอนกลับมาแล้ว 


ซึ่งเป้าหมายจริงๆ ของการทำหนังเรื่องนี้ก็คือการเชิญชวนให้ผู้ใหญ่ที่เติบโตมากับโดราเอมอนกลับมาเพื่อเข้าโรงหนังพร้อมด้วยระลึกความหลังไปพร้อมๆ กัน






วันจันทร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2558

ตัวอย่างหนังใหม่: ลงมาแลตัวอย่างหนังใหม่ที่จะมาถึงมาริให้ดูกันท่อนปีหน้ากันไม่ช้าประเสริฐกว่า

มาลองย้อนรอยหนังเรื่อง Night at the Museum





ซึ่งถ้าจักพูดถึงหนึ่งในหนังยอดเป็นที่นิยมประจำปี 2006 ซึ่งอันที่แท้จริงแล้วต้นกำเนิดของหนังเรื่องนี้มาจากหนังสือนิทานด้วยเด็กในปี 1993 ซึ่งเขียนเพราะ มิลาน เทรนซ์ ได้เอิ้นเล่าเรื่องราวของคุณพ่อที่สมัครงานเข้ามาทำหน้าที่เป็นยามดูแลพิพิธภัณฑ์กะดึกพร้อมด้วยค้นพบว่านิทรรศการจัดแสดงเหล่านี้ดันมีชีวิตได้ยามวิกาล ตัวหนังกำกับเพราะชอนน์ เลวี่ กับ ทำได้ทำเงินไปได้ทั้งสิ้นถึง 574 ล้านเหรียญสหรัฐ

เพราะที่เหตุการณ์ในหนังภาคแรกเล่าเรื่องราวของ ลาร์รี่ ไม่ก็ เบน สติลเลอร์ คุณพ่อที่เพิ่งหย่าจากภรรยามาหมาดๆ ได้ทำการสมัครทำตำแหน่งยามกะดึก พร้อมด้วย ได้พบว่าชาวเผ่ามายัน ที่เป็นนักรบโรมันรวมไปถึงคาวบอยก็ออกมาสู้รบกัน แถมบรรดามนุษย์ยุคหิน นักรบชาวฮั่น ก็ได้เผาที่บังตาหลังของที่จัดแสดงจนเหี้ยน พร้อมกับเจ้าโครงกระดูกทีเรกซ์ก็ดันเข้าใจว่าตัวเองเป็นสุนัขเชื่องๆ ตัวหนึ่ง ท่ามกลางความอลม่านสุดๆ ซึ่งมีแต่ประธานาธิบดี ธีโอดอร์ รูสเวลท์ ไม่ใช่หรือ โรบิน วิลเลี่ยมส์ ที่ดูพอจะช่วยเหเล่าลือเขาพร้อมทั้งให้คำปรึกษาได้บ้าง อีกทั้งลาร์รี่ยังต้องยับยั้งแผนการชั่วร้ายของการฮุบพิพิธภัณฑ์นี้อีกด้วย


เพื่อตัวหนังนั้นได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบพิพิธภัณฑ์มาจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติประจำประเทศอเมริกาเหนือ แต่ถูกสร้างขึ้นในโรงถ่ายจำลองอีกที ถึงแม้ว่าหนังภาคแรกอาจจักไม่ได้ถูกปากนักวิจารณ์เท่าไหร่นักส่วนมากคะแนนของหนังจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณการ C+ แต่ทว่ากระแสตอบรับจากผู้ชมที่ส่วนมากเป็นครอบครัวซะส่วนใหญ่ก็ทำให้หนังประสบความสำเร็จจนเกิดภาคต่อขึ้นมาในปี 2009





เพราะว่าที่หนังเข้าใหม่เรื่อง Night at the Museum: Battle of the Smithsonian นั้นคือภาคต่อภาคดังกล่าว เหตุการณ์ให้ภายหลังภาคแรก 3 ปี ครั้นเมื่อลาร์รี่ตกลงใจลาออกจากการเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยพิพิธภัณฑ์เงินเดือนน้อย ไปเป็น พนักงานผู้ประดิษฐ์คิดค้นผลิตภัณฑ์ แต่ว่าความคิดถึงอาชีพเดิมทำให้เขาต้องกลับมาทำอาชีพเก่า พร้อมทั้ง ได้พบว่าบรรดาผองเพื่อนจัดแสดงจากภาคแรก กำลังกลายเป็นวัตถุที่ไม่ควรนำมาจัดแสดงอีกรองลงไป รอคอยการส่งไปอยู่รวมกับบรรดาวัตถุโบราณขึ้นหิ้งทั้งหลายที่สถาบันสมิธโซเนี่ยน และทำให้เขาได้พบกับเพื่อนกลุ่มใหม่อาทิ เช่น

  1. อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
  2. อับบราฮัม ลินคอร์น 
  3. อมีเลีย เอียฮาร์ท หรือว่า เอมี่ อดัมส์


ส่วนในภาคที่ 2 ตัวหนังยังได้รับนักแสดงกลุ่มเดิมกลับมาอย่างครบพวก เสียก็แต่ว่าคำวิจารณ์ด้วยกันรายได้น้อยกว่าภาคแรกอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงอย่างนั้นหนังก็ยังทำกำไรให้กับสตูดิโออย่างฟอกซ์จนหลายปีทะลุไป ปี 2014 ก็มีภาคต่อที่ชื่อว่า Night at the Museum Secret of the Tomb ตามออกมาโกยเงินคนดูอีกครั้ง


พระเอกแชนนิ่ง เททั่ม มาร์ค รัฟฟาโล่ ขอฟิตหุ่น ฝึกมวยปล้ำนาน 4 เดือน เพื่อหนังเรื่อง FOXCATCHER ปล้ำแค่ตาย


เรียกได้ว่าก็เพราะว่าเป็น ภาพยนตร์ที่สร้างจากเหตุการณ์ยิ่งของ 2 นักแสดงนำของเรื่องเลยก็ว่าได้ ที่ได้จัดเต็มทุ่มเท เพื่อบทบาทที่ได้รับกันแบบสุดตัว เพราะว่าที่ แชนนิ่ง เททั่ม และ มาร์ค รัฟฟาโล่ นั้นต้องเพิ่มน้ำหนักและฟิตร่างกาย กว่า 10 ปอนด์ และ ยังต้องเข้าฝึกมวยปล้ำนานกว่า 4 เดือน

เพื่อที่จักได้รับบท มาร์ค ด้วยกัน เดฟ ชูทส์ 2 พี่น้องแชมป์มวยปล้ำเหรียญทองโอลิมปิค ทั้ง เททั่ม กับ รัฟฟาโล่ นั้นต่างก็ไม่มีทักษะด้านมวยปล้ำมาก่อน

พร้อมด้วยนั่นทำให้พวกเขาต้องเรียนรู้ท่าทาง การเคลื่อนไหว โดยกลุ่มงานได้นำ โค้ชผู้ฝึกสอนนักกีฬาของกรุ๊ปฟ็อกซ์แคชเชอร์ ตัวยิ่งมาเป็นผู้ฝึกให้ รวมทั้งศึกษาจากวิดิโออีกด้วย แม้ว่า รัฟฟาโล่ จักเคยเล่นมวยปล้ำมาบ้างในสมัยมัธยมปลาย แต่เดฟ ชูทส์เป็นคนถนัดซ้าย ซึ่งทำให้นักแสดงหนุ่มต้องลืมทุกอย่างที่เขาเคยรู้ไปให้หมด  ผมขอท้าให้ใครก็ตามที่เคยคิดว่ากีฬาที่พวกเขาเล่นนั้นโหดหินที่สุดแล้วให้มาลองเล่นมวยปล้ำดู




เพราะ แชนนิ่ง เททั่ม นั้นเช็ครอบหนังเป็นเช่นคนเดียวในบรรดานักแสดงหลังทั้ง 3 คนที่จักต้องรับบทตัวละครที่ยังคงมีชีวิตอยู่แท้จริงอย่าง มาร์ค ชูทส์ ซึ่งปัจจุบันทำงานเป็นโค้ชมวยปล้ำในโอเรกอน เพราะเขามักจะมาเยี่ยมเยียนกองถ่ายอยู่บ่อยๆ การมีเขาอยู่ด้วยเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากครับ ด้วยกัน มาร์คตัวแน่แท้ปรากฏตัวในฐานะนักแสดงรับเชิญในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย





ด้วยว่าทาง FOXCATCHER ไม่ก็ ฟ็อกซ์แคชเชอร์ หรือปล้ำแค่ตาย คือผลงานการกำกับของ


  • เบ็นเน็ต มิลเลอร์ จากเรื่อง 1.Capote, 2.Moneyball  


ที่ได้รวมนักแสดงแถวหน้าอย่าง 1.แชนนิง เททั่ม สตีฟ กับ 2.คาเรล มาร์ค รัฟฟาโล่ หนังที่สร้างจากเรื่องแน่แท้ของคดีฆาตกรรมที่สั่นสะเทือนไปทั่ววงการกีฬา กับเหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งยิ่งใหญ่ของวงการมวยปล้ำสหรัฐ เรื่องราวของสองพี่น้องนักมวยปล้ำผู้ยิ่งใหญ่ เดฟ มาร์ค รัฟฟาโล่ พร้อมทั้ง มาร์ค แชนนิ่ง เททัม ชูทส์ เจ้าของดีกรีเหรียญทองโอลิมปิกพร้อมทั้งแชมป์มวลปล้ำโลก 2 กาลสมัย




ที่ต้องทะลวงการดิ้นรนต่อสู้จนกลายมาเป็นสุดยอดนักมวยปล้ำที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในชีวประวัติศาสตร์ แต่ก่อนที่จักได้เป็นเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิคสมัยถัดจาก เดฟ ชูทส์ กลับถูกฆาตกรรมลงอย่างเละบือดเย็น

ซึ่งนักวิจารณ์ทั่วโลกต่างก็ยกย่องให้ FOXCATCHER เป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปีซึ่งจักเปิดเปรยเบื้องหลังเหตุการณ์ครันที่สะเทือนใจคนทั้งประเทศ FOXCATCHER ปล้ำแค่ตาย เข้าชิง 3 รางวัลลูกโลกทองคำ จอเงินยอดเยี่ยม นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม นักแสดงสบทบชายยอดเยี่ยม 8 มกราคม 2015


ตัวอย่างหนังใหม่ Foxcatcher ปล้ำแค่ตาย Official Trailer HD [ซับไทย]